เจ้าภาพ รัสเซีย ก้าวขาเข้ารอบไปข้างนึงแล้ว !!
เจ้าภาพ รัสเซีย ก้าวขาเข้ารอบไปข้างนึงแล้ว !!
หลังจากจบเกมลงระหว่าง ทีมชาติ รัสเซีย พบกับ ทีมชาติ อียิปต์ ซึ่งเกมนี้เป็นเจ้าภาพรัสเซียที่ทำได้ดีกว่าพวกเขาเก็บชัยชนะเหนือ อียิปต์ ด้วยสกอร์ 3-1 เกมที่แล้ว รัสเซียก็เก็บผลสกอร์ได้ 5 เกมนี้บวกอีก 2 พูดกันง่ายๆ รัสเซีย เขารอบอย่างแน่นอนแล้ว
ถึงแม้ว่าวันนี้ ทาง อียิปต์ ได้ส่งผู้เล่นตัวเก่งอย่าง ซาลาร์ลงสนามก็ตาม แต่พวกเขาต้องยอมรับในสภาพของทีมว่าสูงไม่ได้จริงๆ วันนี้ ซาลาร์ยังสามารถทำให้ทีมได้จุดโทษและยังยิงได้อีกหนึ่งประตูต้องบอกว่าเราทำได้ดีที่สุดแล้ว
เราไปสรุปเกมการแข่งขันกัน
เริ่มเกม อียิปต์เป็นฝ่ายครองบอลขณะที่ รัสเซีย คอยคุมเชิงและรอดักสวนกลับ น. 3 เจ้าภาพตัดบอลกลางสนามและเปิดเข้ามาในเขตโทษแต่ย้อนหลัง อาร์เต็ม ซิวบา ไปอย่างน่าเสียดาย จากนั้นใน น. 6 ทัพ "หมีขาว" ได้เตะมุมโดยพวกเขาเล่นสั้น ก่อนจะโยนเข้ากลางให้ เซอร์เก อิกนาเชวิช โหม่งแต่ไม่ค่อยถนัดทำให้บอลไม่เแรง และเข้ามือโมฮาเหม็ด เอล เชนาวี่ แบบสบายๆ
จากนั้น รัสเซีย มีโอกาสตัดเกมจากแดนกลางจาก อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน และเจ้าตัวลากเข้าไปในระยะทำการก่อนซัดไกลแต่บอลออกข้างไปแบบไม่มีลุ้น ทัพ "หมีขาว" ยังคงได้กดดันตลอด จนกระทั่ง น. 16 อียิปต์มีโอกาสทำประตูได้จากการหลุดเข้าไปยิงจาก เทรเซเก้ต์ แต่ดันปั้นบอลออกเสาไกลไปอย่างน่าเสียดาย
เข้ามาสู่ น. 23 ยูริ กาซินสกี้ เปิดบอลสูงเกินไปทำให้เลยข้ามหัว ซิวบา ไปแบบไม่มีลุ้น อีกสองนาทีต่อมา ซาลาห์ โชว์สเต็ปเลี้ยงหนีกองหลังรัสเซีย ก่อนผ่านให้ เทรเซเก้ต์ บริเวณกรอบเขตโทษแต่เจ้าตัวดันยิงไม่ดีติดแนวรับเจ้าภาพ
จนกระทั่งในน. 34 เอล ซาอิด มีโอกาสเปิดบอลบริเวณเขตโทษและบอลกำลังจะถึง ซาลาห์ ที่วิ่งมาที่จุดนัดพบบริเวณเสาไกลแต่โดน ยูริ ชีร์คอฟ พุ่งสกัดด้วยปลายเท้าออกหลังไปอย่างหวุดหวิด
น. 42 ซาลาห์ มีโอกาสได้บอลบริเวณกรอบเขตโทษและรีบหมุนตัว 360 องศาฯ ราวกับนักเต้นบัลเล่ต์เพื่อหาช่องว่าง ก่อนจะซัดบอลผ่านเสาไกล ทำเอาแฟนบอลรัสเซียเสียวท้องน้อยกันทั้งสนาม ช่วงเวลาที่ต่างฝ่ายต่างพยายามเปิดเกมใส่กันแต่ไม่มีจังหวะหวาดเสียว และกรรมการก็เป่านกหวีดยาวหมดเวลาครึ่งแรก
ครึ่งหลัง รัสเซีย พยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่และมาประสบความสำเร็จใน น. 47 เมื่อ เอล เชนาวี่ ชกบอลออกมาที่หน้ากรอบเขตโทษ และ โรมัน ซอบนิน ได้จังหวะยิงไกลบอลกระเด็นกระดอนเข้าไปในเขตโทษก่อนที่ อาห์เหม็ด ฟาธี ซึ่งดูเหมือนจะโดน ซิวบา ผลักด้านหลัง เสียจังหวะสกัดบอลเข้าประตูตัวเอง ส่งให้เจ้าภาพขึ้นนำ 1-0
อียิปต์ พยายามเดินเกมหวังเอาประตูคืน และ น. 56 ซาลาห์ มีโอกาสเน้นๆ แต่จังหวะยิงของเขาดันไปติด มาริโอ แฟร์นานเดส จนกระทั่ง น. 59 เชรีเชฟ ซัดประตูในระยะ 8 หลาให้ทีมนำ 2-0 โดยเป็นประตูที่สามของเขาในทัวร์นาเมนต์นี้ จากนั้นอีก 3 นาที หมีขาวยังดุราวกับหมีตกมันเมื่อ ซิวบา โชว์ทักษะจับบอลอย่างเหนือชั้นก่อนตะบันเต็มเหนียวเข้าประตูให้เจ้าภาพนำห่าง 3-0
น. 64 ทัพมัมมี่ต้องแก้เกมด้วยการถอด โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ ออก และส่ง อาเมอร์ วาร์ดา ลงมาแทน โดย อียิปต์ ยังคงพยายามจะความหาประตูแรกให้ได้และเกือบสำเร็จใน น. 67 เมื่อ ซาลาห์ ส่งบอลถวายพานให้ เทรเซเก้ต์ บริเวณกรอบเขตโทษแต่ดันยิงไม่ดีบอลหลุดออกเสาไปอย่างน่าเสียดาย
จนกระทั่ง น. 72 ซอบนิน ทำฟาวล์ ซาลาห์ กรรมการเป่าให้ อียิปต์ ได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ แต่เมื่อผู้ตัดสินเช็ควีเออาร์แล้วได้เปลี่ยนคำตัดสินให้เป็นจุดโทษ และ สตาร์ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล รับหน้าที่สังหารไม่พลาดช่วยให้ทัพมัมมี่ ตีไข่แตกเป็น 3-1
หลังจากโดยเปิดซิง รัสเซีย ตั้งสติกลับมาอีกครั้ง และพยายามที่จะยิงประตูเพิ่มให้ได้ แต่พวกเขาเกือบต้องเสียจุดโทษอีกครั้งใน น. 78 เมื่อ อิลย่า คูเตปอฟ ดึง มาร์วาน โมห์เซน ล้มกลิ้งเป็นลูกขนุนแต่กรรมการปล่อยให้เล่นต่อไป
ช่วง 10 นาทีสุดท้ายต่างฝ่ายต่างพยายามแลกกันอย่างเต็มที่ จนกระทั่ง น. 88 ซาลาห์ ใช้ความเร็วฉกบอลจากกองหลังรัสเซีย แต่รีบยิงเกินไปทำให้บอลหลุดกรอบไปแบบไม่มีลุ้น ต่อมา น. 90 วาร์ดา มีโอกาสยิงโล่งๆ แต่ดันกดออกเสาไปหน้าตาเฉย
เข้าสู่ช่วงทดเวลาเจ็บ 4 นาทีเกมก็ยังเข้มข้น อียิปต์ ยังพยายามที่จะยิงประตูเพิ่มให้ได้ แต่สุดท้ายไม่สามารถส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย จบเกม รัสเซีย เก็บชัยชนะได้อย่างงดงาม
วิเคราะห์ตามเซียนกูรู ข่าวสารอีกมากมายกดเลย : ChartStep
Post a Comment